15 กรกฎาคม 2552

SERVE JESUS TOGETHER! : By suchart seeya

ถึง พี่น้องสายพระพรที่คิดถึงในพระคริสต์

ขอบคุณพระเจ้า ที่ทรงนำการเดินทาง ตลอดจนการประชุมคณะมิชชั่นที่อาริโซน่าผ่านไปได้ดี พระเจ้าทรงนำผมและภรรยาครั้งนี้ไม่มีลูกสาวไปด้วย อากาศที่รัฐนี้ร้อนมากกว่าประเทศไทยมากนัก พืชที่ขึ้นส่วนมากแล้วปลูกในแถบร้อน เช่น ต้นตะบองเพชร เป็นต้น โรงแรมที่เช่าประชุมนั้นสวยมาก เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบไปในแถบร้อนระอุอย่างนี้ สุขภาพของผมไม่ค่อยมีปัญหาเท่าที่อยู่รัฐเดิมเพราะทนร้อนได้อยู่แล้ว คนพื้นเมืองที่นี้ส่วนมากเป็นชาวอินเดียแดง บ้านถูกปลูกเรียงรายอย่างสวยงามที่สุด ทุกหลังล้วนตกแต่งน่าอยู่น่าอาศัยทั้งนั้น เรียบร้อยกว่าบ้านจัดสรรที่เมืองไทยมากครับ ชาวบ้านส่วนมากมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีร้านอาหาร ห้างปลูกแทรกเป็นระยะๆ มีไฟจารจรแทบทุกหนึ่งร้อยเมตรเลยทีเดียว สะอาดและน่าอยู่อาศัยมากครับ

มีมิชชั่นมาร่วมประชุมมากกว่าเก้าสิบคน ไม่รวมเด็กๆที่ตามผู้ใหญ่มาด้วย มาจากไทยสามครอบครัว จีนหนึ่งครอบครัว เวียดนามหนึ่งครอบครัว กัมพูชาสองครอบครัว และอื่นๆอีกมากมายกว่ายี่สิบประเทศครับ เราสองคนเสียดายมากที่ไม่เอาลูกสาวมาด้วยกัน เพราะคนอื่นเอาลูกๆมาด้วย มีพี่เลี้ยงดูแลและสอนพระคำภีร์ทุกวันเลย เราเห็นพวกเขามีความสุขกับกิจกรรมมากมาย เช่น ว่ายน้ำ เล่นกีฬา แล้วอดไม่ได้ที่จะคิดถึงลูกเราบ้าง เราสองคนคิดผิดมากที่ไม่ได้เอาลูกมาด้วยในครั้งนี้ ขอบคุณพระเจ้า

ก่อนที่จะมาผมก็ตั้งเป้ากับพระเจ้าไว้แล้วอย่างดี คือขอพระเจ้าเมตตาให้ผมเห็นความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของหมู่คณะที่เราสังกัดอยู่ด้วย สอง ผมขอให้พระเจ้าทรงประทานเพื่อนให้ผมและครอบครัว ที่จะสามารถพูดคุยหนุนใจกันได้อย่างหมดใจในความรักของพระเจ้า พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานมากกว่าที่ผมทูลขอจากพระองค์ พระองค์ทรงจัดเตรียมอย่างดีให้กับพวกเราครับ ขอบคุณพระเจ้า บรรยกาศไม่น่าเบื่ออย่างที่คิดกลับน่าตื่นเต้นในทุกคาบเวลาที่เราประชุมร่วมกันครับ อาหาร ของว่างที่ได้ทานส่วนใหญ่มาจากอาหารที่ขึ้นชื่อของเมืองอาริโซน่า ผมชอบที่คนที่นี่บางคนก็นิยมกินเผ็ดเหมือนคนไทย แต่ก็อดน้ำลายสอไม่ได้เมื่อคิดถึงส้มตำปลาร้าของไทยแท้ๆ

ขากลับพระเจ้าทรงเซอร์ไพรส์ผมและภรรยาครับ เรื่องมีอยู่ว่า " เราสองคนตกเครื่องบินครับ แม้จะพยายามวิ่งให้เร็วอย่างไรสุดท้ายก็ไปผิดที่ครับ และวิ่งผิดที่ตั้งสามครั้งจนเหนื่อยใจและในที่สุดก็ขึ้นเครื่องไม่ทันออกครับ...เราสองคนเหนื่อยมากๆ ภรรยาตรงไปบ่นกับเจ้าของบริษัทเลยว่าเป็นความผิดของเขาที่ไม่ยอมส่งคนมาพาส่งอีกเครื่องหนึ่ง คุยไปมาทางเขารับผิดชอบให้เราขึ้นในไฟรส์ต่อไปอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า และขอให้เราเลื่อนไปนั่งชั้นที่หนึ่งเลยครับทีนี้.... เราสองคนนั่งนิ่งไสักพักและมาหนุนใจกันว่าพระเจ้าต้องการให้เรานั่งกลับอย่างสบายๆนั่นเอง.." เหตุการนี้สอนให้เราทำส่วนของเราให้เต็มที่ และพระองค์ก็จะทรงทำส่วนของพระองค์ให้กับเราอย่างที่เราขออย่างสัตย์ซื่อครับ ผมเชื่อว่าพี่น้องสายพระพรก็สามารถมีประสบการณ์เหมือนผมกับภรรยาในการเดินทางครั้งนี้ได้ หากว่าตั้งเป้าหมายก่อนการเดินทาง ฝากไว้กับพระเจ้า ทำส่วนของตนเองให้ดีที่สุดดังที่กล่่าวไว้ข้างต้น ขอพระเจ้าทรงหนุนใจและช่วยเหลือพี่น้องที่กำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนด้วยเถิด

เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ได้รับข่าวดีครับว่า จะมีคนถวายตัวจากคริสตจักรต่างๆหลายรัฐด้วยกัน เพื่อมาช่วยสร้างโรงเรียนที่อยู่ให้กับคนพิการที่ข้างบ้านของผมในเมืองไทย ตอนนี้มีมากกว่ายี่สิบคนแล้ว จึงจำเป็นต้องแบ่งเป็นสองกลุ่มด้วยกัน กลุ่มแรกจะมาก่อนวันคริสตมาสในปีนี้ กลุ่มที่สองจะมาช่วงสงกรานต์ปีใหม่ไทย มีทุกเพศทุกวัย ต้องบอกว่าส่วนมากแล้วเป็นสมาชิกที่กรตือรือร้นธรรมดาในคริสตจักรเท่านั้น และพวกเขาไม่ได้มีเงินมากมายอะไรเลย มีเพียงแค่ค่าเครื่องและค่าอาหารที่ต้องเตรียมกันเองเป็นส่วนตัว ทางคริสตจักรเองก็ไม่สามารถช่วยได้เพราะไม่มีงบส่วนนี้ครับ บางคนบอกว่าอยากมาทำอาหารให้คนที่ทำงานกินเท่านั้น บางคนอยากมาช่วยทาสีบ้านเท่านั้น และมีอีกหลายกรณีเหตุผลที่เขาอยากมาช่วยต่างๆนานา ผมอดซาบซึ้งในความรักของพวกเขาไม่ได้จริงๆครับ และขอขอบคุณทางพี่น้องสายพระพรมากที่อธิษฐานเผื่อไม่เคยขาด

ครอบครัวของผมต้องเดินทางไปอีกหลายที่หลายรัฐก่อนกลับเมืองไทย เช่นวันศุกร์ที่จะถึงนี้จะต้องไปร่วมเล่นดนตรีกับพี่น้องในหมู่บ้านไกลๆออกไป และต้องเทศนาด้วยที่คริสตจักร ยอมรับว่าช่วงกลับกลับวุ่วายมาก ต้องเตรียมตัวทุกเรื่องให้พร้อมครับ ขอพระเจ้าทรงเสริมกำลังผมและครอบครัว และทางนำในการรับใช้ทุกที่ที่ไปรับใช้พระองค์ คาดว่าจะเดินเรื่องให้แล้วเสร็จและกลับเมืองไทยของเราในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนะครับ ขอพระเจ้าทรงอวยพระพร

รักพระคริสต์
สุชาติและครอบครัว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น