03 มีนาคม 2552

ติดอาวุธเพื่อการสงครามฝ่ายวิญญาณ By : โอ๋

พระคัมภีร์กล่าวไว้น้อยมากถึงเรื่องราวที่เราจะตอบสนองต่อฑูตสวรรค์และมาร แทนที่พระคัมภีร์จะเชิญชวนให้เราริเริ่มเผชิญหน้ากับวิญญาณชั่วโดยตรง กลับบอกให้เราเลือกที่จะจงรักภักดีต่อพระเจ้า และใช้อาวุธฝ่ายวิญญาณอันทรงพลังที่ปรากฎอยู่ในเอเฟซัส 6:14-18

เหตุฉะนั้นท่านจงมั่นคง เอาความจริงคาดเอวเอาความชอบธรรมเป็นทับทรวงเครื่องป้องกันอก และเอาข่าวประเสริฐแห่งสันติสุข ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความพรั่งพร้อมมาสวมเป็นรองเท้า และพร้อมกับสิ่งทั้งหมดนี้ จงเอาความเชื่อเป็นโล่ ด้วยโล่นั้นท่านจะได้ดับลูกศรเพลิงของพญามารเสีย และเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ และจงถือพระแสงของพระวิญญาณ คือ พระวจนะของพระเจ้า จงอธิษฐานวิงวอนทุกอย่าง จงขอโดยพระวิญญาณทุกเวลาความจริงคาดเอว เราต้องรู้สัจจะ ยึดมั่นในความเชื่อที่เรามีต่อสัจจะ พูดสัจจะและตอบสนองต่อปัญหาและความท้าทายในชีวิตด้วยสัจจะนั้น

ความชอบธรรมเป็นทับทรวงเราต้องเลือกที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรพระเข้าข่าวประเสริฐแห่งสันติสุขเป็นรองเท้าคำนี้อาจหมายถึงความมั่นใจว่าเรามีสันติสุขกับพระเจ้า หรืออาจหมายถึงการเตรียมพร้อมที่จะรับใช้พระองค์ทุกเวลา ความเชื่อเป็นโล่เราต้องดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ เลือกที่จะไว้วางใจพระเจ้าตลอดเวลาและไม่เชื่อคำโกหกของศัตรูความรอดเป็นหมวกเหล็กเราต้องระลึกว่าความรอดของเรานั้นแน่นอนพระแสงของพระวิญญาณเราต้องรู้และใช้พระคำของพระเจ้าฤทธิ์อำนาจของการอธิษฐาน แม้ว่าการอธิษฐานจะไม่ได้เป็นเครื่องอาวุธ แต่เปาโลก็ได้เน้นถึงความจำเป็นของการอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อเราอธิษฐานเรากำลังแสดงถึงความจงรักภักดีและการยอมจำนนต่อพระเจ้า และเรายึดมั่นในกำลังที่พระองค์ปรารถนาที่จะประทานให้เรา นอกจากสิ่งที่เปาโลเขียนไว้ในเอเฟซัสบทที่ 6 แล้ว เปโตรยังกล่าวว่า ท่านทั้งหลายจงสงบใจจงระวังระไวให้ดี ด้วยว่าศัตรูของท่านคือมารวนเวียนอยู่รอบๆดุจสิงห์คำรามเที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้ จงต่อสู้กับศัตรูนั้นด้วยใจที่มั่นคงในความเชื่อ เพราะว่าพวกพี่-น้องของท่านทั้งหลายทั่วโลก ก็ประสบความทุกข์ลำบากอย่างเดียวกัน (เปโตร 5:8-9) เปโตรหนุนใจให้ผู้เชื่อยืนหยัดมั่นคงและต่อสู้กับมาร ท่านรู้ดีว่าอิทธิพลของซาตานนั้นมีพลังมากเพียงใด หลังจากที่พระเยซูบอกกับเปโตรว่าซาตานจะฝัดร่อน (ท่าน) เหมือนฝัดข้าวสาลี (ลูกา 22:31) ท่านก็ได้ปฏิเสธพระองค์ถึงสามครั้ง (55-62)

ยากอบได้ให้คำแนะนำทึ่คล้ายกันในจดหมายฉบับสั้นๆ ที่ท่านเป็นผู้เขียนว่าเหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงน้อมใจยอมฟังพระเจ้า จงต่อสู้กับมาร และมันจะหนีท่านไป (4:7) ยากอบไม่ได้ให้สูตรสำเร็จสำหรับการต่อสู้กับการโจมตีของซาตาน ท่านไม่ได้บอกให้เราพูดให้ร้ายซาตาน หรือให้ท่องวลีคริสเตียนบางวลี ท่านเพียงแต่กล่าวว่าให้ จงต่อสู้กับมาร และมันจะหนีไปหลังจากที่พระเยซูใช้เวลา 40 วันในถิ่นธุระกันดาร มารก็มาหาพระองค์และทดลองพระองค์หลายอย่าง(มัทธิว:104:1-11) พระเยซูไม่ได้ทำอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจให้ผู้คนชม พระองค์เพียงแค่กล่าวอ้างพระคัมภีร์ พระองค์กล่าวถึงความภักดีที่พระองค์มีต่อพระบิดา ตอกย้ำความจริง และต่อต้านคำโกหกของซาตาน ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ในเรา เราจำเป็นต้องจำนนต่อพระเจ้า วางใจในกำลังของพระองค์ และให้มารรู้ว่าเราไม่อยากจะข้องแวะกับมัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น