" ความเข้าใจ "
ถึง พี่น้องสายพระพร
ขอบคุณพระเจ้า วันนี้เป็นวันสะบาโตหรือเป็นวันอาทิตย์นั้นเอง พระเจ้าทรงรับสั่งให้เราทั้งหลายยึดถือและรักษาให้เป็น วันบริสุทธิ์แด่พระองค์ โดยการเข้าร่วมนมัสการ ฟังพระคำ และอธิษฐานร่วมกับพี่น้องในพระคริสต์ ( ถวายทรัพย์ ถือพิธีมหาสนิท ) เป็นหนึ่งข้อพระบัญญัติสิบประการเลยทีเดียว เป็นวันศักดิ์สิทธิืแด่พระเจ้า ที่จะหยุดจากการงานทุกอย่างเพื่อพระเจ้า
พระเจ้าได้เรียกร้องคนของพระเจ้ามาทุกยุคทุกสมัยให้รักษาวันสบาโตถือวันบริสุทธิ์แด่พระเจ้า ถ้าเราย้อนมองดูหลักและเหตุผลของพระเจ้าแล้ว พระองค์ก็ตั้งวันสะบาโตเพื่อเราทั้งหลายแท้ๆ และเพื่อกันไม่ให้ลืมพระคุณของพระเจ้า และหลงไปติดสอยห้อยตามรูปเคารพที่ถูกเรียกว่าพระเจ้าแทน มันเป็นเรื่องน่าเศร้าใจเพราะคนยุคแล้วยุคเล่าถือรักษาให้เป็นวันบริสุทธิ์แด่พระเจ้าไม่ได้เลย ฟังดูแล้วไม่ยาก แต่ยากตรงที่มีการทดลองเข้ามาแทรกแซง การทดลองมีอยู่หลายเรื่อง ซาตานรู้ว่าเรื่องใดเหมาะกับคนใด เพื่อจะนำคนนั้นให้ทำผิดและหลงไปจากพระเจ้า
ผมขอบคุณพระเจ้า ที่วันนี้ป่วยไม่สามรถเข้าร่วมนมัสการกับพี่น้องได้ แม้ว่าบ้านพักจะอยุ่ติดกับคริสตจักรเลยก็ตาม พระเจ้าให้ผมมานั่งนึกและเขียนเมลมาหนุนใจพี่น้องในสายพระพร ซึงระหว่างที่จะเขียนพระเจ้าได้ทำให้ผมเกิดความเข้าใจในบางเรื่องที่พระองค์อยากให้เขียนมาหนุนใจเสียก่อน ผมขอใช้ประโยคที่ว่า " ความเข้าใจ " นะครับ ต้องขอโทษพี่น้องเลยครับ เพราะเรื่องนี้ที่จริงแล้วผมเคยเข้าใจมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ละลืมเพราะว่าตนเองสามารถเข็นรถไปคริสตจักรเองได้ เลยลืมคิดถึงพี่น้องที่ไม่สามารถไปคริสตจักรเองได้ และถูกปล่อยให้กลายเป็นคนที่คริสตจักรไม่เคยรู้จัก หรือไม่เคยได้ยินชื่อ ไม่เคยอธิษฐานเผื่อเลย
มันน่าน้อยใจมาก และหลายครั้งก็ต้องคิดไปเองว่าเราไม่สามารถเป็นคริสเตียนที่ดีได้ เพราะไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมกับพี่น้องในคริสตจักรได้เลย พระเจ้าก็คงจะไม่พอใจเช่นกัน และก็คงเป็นคนที่ไร้ค่าถูกสาปจากพระเจ้าให้อยุ่ในสภาพที่น่าอาสมเพทเช่นนี้เรื่อยไป นี่คืออีกหนึ่งความคิดของคนที่ไม่สามารถไปคริสตจักรเองได้ หลายคนพยายามอย่างมากที่จะไปคริสตจักรให้ได้ไม่ว่าจะโดยวิธีการใดก็ตาม หลายคนมีคนมาช่วยนำไปแต่ก็ไม่บ่อยนัก และหลายคนนับตั้งแต่ รับเชื่อมายังไม่เคยไปคริสตจักรมาเลยก็มี
ความผิดปกติไม่ได้อยู่ที่เราไม่ได้ไปคริสตจักรเหมือนคนอื่นในวันอาทิตย์ แต่อยู่ที่เราคิดผิดเกี่ยวกับการไม่ได้ไปร่วมต่างหาก เมื่อย้อนมองดูตัวเราแล้ว การช่วยเหลือตนเองก็ยังไม่ได้มาก ลุกขึ้นมานั่งก็ทำไม่ได้ จะหายใจก็ต้องมีเครื่องช่วย อาหารก็ต้องเข้าทางสายยางอีกทางหนึ่ง สามวันดีสี่วันไข้ น้ำไม่เคยถูกตัวเป็นปีๆก็มี นี่ยังไม่รวมถึงความทุกข์ทรมานอย่างอื่นๆนะ ฯลฯ ผมขอหนุนใจพี่น้องว่าไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้มากครับ เริ่มต้นขอให้เราเริ่มเปลี่ยนที่ท่าทีผิดๆของเราเสียก่อน พระเจ้าก็ยังรักเราเหมือนเดิมครับ เพราะพระองค์ทรงเข้าใจว่าเราอยู่เพื่อพระองค์ในสถานภาพใด อย่าเสียใจกับเรื่องนี้ครับ ทูลขอพระเจ้าทรงเอาความคิดนี้ออกไป
พระเจ้าทรงให้พระบัญญัติแก่เราเพื่อจะรักษาให้บริสุทธิืแด่พระองค์ ในสมัยนั้นพระเจ้าเขียนให้คนปกติเท่านั้นครับ ส่วนคนที่เป็นคนพิการ หรือโรคร้ายก็ถือว่าเป็นที่ต้องคำสาปจากพระเจ้าไปอย่างสิ้นเชิง และไม่สามารถดำเนินชีวิตอยู่ ท่ามกลางคนปกติได้ ( โรคเรื้อน ) ต้องถูกขับไล่ออกจากฝูงชนและอยู่คนเดียวลำพังจนกว่าจะหายเท่านั้น....มาในสมัยยุคแห่งพระคุณในพระเยซูคริสต์เจ้า ความพิการ และโรคร้ายทุกอย่างสามารถเข้าเฝ้าพระเจ้าได้แล้ว และสามารถอยู่ท่ามกลางผู้ที่ไม่รังเกียจได้อย่างปกติสุข และหากพระเจ้าทรงได้รับพอพระทัยในผู้ใดที่แสวงหาพระองค์ ผู้นั้นก็จะได้รับการรักษาอย่างแน่นอน
สายพระพร ของเราน่าจะมีการติดตามพี่น้องที่ไม่สามารถเข้าเฝ้าพระเจ้าในวันอาทิตย์ได้ นัดแนะกันให้ดีและรวมเข้าสายด้วยกันเหมือนเช่นวันปกติ แต่ขอพิเศษให้มาก เพราะขอให้เรารักษาให้บริสุทธิ์แด่พระเจ้าเหมือนคริสเตียนทั่วไทยที่กระทำกันในวันนี้ เรื่องการถวายสิบลดและการทำพิธีมหาสนิทร่วมกันนั้นก็คงต้องงดไปตามอัตภาพครับ ผมเข้าใจว่าพระเจ้าทรงเข้าใจเราทั้งหลายทุกคนดีครับ แต่หากว่าเราสามารถไปคริสตจักรเองได้ก็อย่าได้ขี้เกียจเลย อันนี้พระเจ้าก็เข้าใจครับ เข้าใจว่าน่าจะโดนไม้เรียวให้วิ่งไปคริสตจักรเลยทีเดี๋ยว...
พระเจ้าทรงอยู่ใกล้พี่น้องทุกคน ลมหายใจเข้าออกของพี่น้องพระเจ้าก็ทรงนับไว้แล้ว เพราะนับตั้งแต่วินาทีที่รับเชื่อ ชีวิตของพี่น้องก็เป็นของพระองค์อย่างสิ้นเชิง โดยพระองค์และเพื่อพระองค์ ไม่ต้องกลัวว่าพระเจ้าจะไม่ทรงเข้าใจความ เป็นไปของเรา ขอให้เรามั่นใจว่าพระเจ้าทรงอยู่กับเราเสมอ ทรงเข้าใจ และทรงห่วงใยเราเสมอทุกเวลา ไม่ว่าเวลานี้เราจะเป็นอย่างไร เจ็บปวดมากแค่ไหน พระเจ้าทรงร่วมทุกข์สุขกับเราเสมอ ทูลขอต่อพระองค์ในเวลาที่ยังมีลมหายใจอยู่ ขอพระเจ้าให้เราทนได้เพื่อพระองค์ต่อไป.....
รักพระคริสต์
คนของพระเจ้า
suchart seeya
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น