09 มีนาคม 2552

พลังของการยกโทษ By : เปิ้ล

หวัดดีค่า...

เมื่อวันเสาร์ที่แล้วได้ไปร่วมสัมมนา ทางออก วิทยากรคือ อ.อนิต้า บาร์คเคอร์ จากประเทศสวีเดน ท่านเน้นพันธกิจทางด้านการบำบัดรักษาและปลดปล่อย สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ท่านเป็นคนพิการตามกฎหมาย สามารถมองเห็นได้เพียง 2% ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น แต่ท่านดำเนินชีวิตเหมือนกับว่าท่านไม่ได้ตาบอด ท่านไม่ใช้ไม้เท้า และทำทุกสิ่งเหมือนคนปกติ เพราะพระเจ้าสั่งให้ท่านทำแบบนั้น และพระองค์สัญญาว่าจะเป็นผู้ดูแลท่านในทุกสิ่งเอง ดังนั้นชีวิตของท่านจึงมีอัศจรรย์มากมาย นอกจากนั้นท่านยังมีประสบการณ์ความเจ็บปวดสาหัสจากการถูกหย่าร้างจากสามีที่อยู่ด้วยกันมาถึง 27 ปี ทำอย่างไรท่านจึงหลุดพ้นจากความขมขื่น สามารถยกโทษและอวยพรให้สามีและภรรยาใหม่ของเค้าได้ ท่านมีชีวิตที่น่าสนใจมาก หากใครอยากรู้เรื่องราวเพิ่มเติมสามารถอ่านได้จากหนังสือชื่อ ทางออก ของอ.อนิต้า จ้า หรือเข้าไปอ่านใน http://www.thewayout.se/ ก็ได้น๊า..ถ้าอ่านภาษาปะกิตได้น่ะ ^^

วันนี้ก็จะเอาส่วนที่ได้ไปสัมมนามาแบ่งปันนะคะ สัมมนานี้เน้นเรื่องการปลดปล่อยความเจ็บป่วยทั้งร่างกายและจิตใจโดย การยกโทษ ย้ำว่า ทั้งร่างกายจิตใจ ในหนังสือของอาจารย์มีคำพยานมากมายจากทั่วโลกถึงฤทธิ์เดชแห่งการบำบัดรักษาผ่านการยกโทษ การเจ็บป่วยทางร่างกายส่วนใหญ่นั้นมีผลเกี่ยวเนื่องมาจากสภาพของจิตใจ

การยกโทษไม่ใช่อารมณ์ แต่เป็นการตัดสินใจสละสิทธิ์ที่จะขมขื่น หรือปฏิเสธที่จะขมขื่น

อาจารย์ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆ ว่าความขมขื่นก็เหมือน เราดื่มยาพิษและหวังว่าศัตรูของเราจะถูกทำลาย ซึ่งมันไม่จริงและไม่มีวันจะชนะศัตรูได้เลย เมื่อเราขมขื่นก็เท่ากับเรากำลังดื่มยาพิษอยู่นั่นเอง

การยกโทษ (Forgiveness) è การเยียวยารักษา (Healing) è การได้รับชีวิตใหม่ (Resurrection)

ในยากอบ 5:16 บอกไว้ว่า การสารภาพจะนำมาซึ่งการเยียวยารักษา

การยกโทษนั้นไม่เพียงแต่ยกโทษให้คนอื่นเท่านั้น แต่ต้องยกโทษให้ตัวเองด้วย ผลที่ตามมาของการไม่ยอมยกโทษให้ตัวเองก็คือ ชีวิตที่ไม่เกิดผล (เพราะมีรากขมขื่น ผลที่ออกมาก็เป็นผลที่เน่าเสีย)

อย่าจริงจังกับตัวเองมากเกินไป หัดหัวเราะให้กับความผิดพลาดของตัวเองบ้าง มนุษย์ไม่สมบูรณ์ ทุกคนสามารถผิดพลาดได้ เรียนรู้ที่จะยกโทษให้ตัวเอง ทิ้งความผิดพลาดไว้ข้างหลัง แล้วก้าวเดินต่อไป

ยกโทษให้คนอื่น = สละสิทธิ์ที่จะขมขื่น

การยกโทษ ต่างจากการพยายามลืม เมื่อเรายกโทษเราจะสามารถอวยพรคนนั้นได้ด้วย

การจะได้รับการบำบัดและปลดปล่อยเริ่มจากตัวเรา คือยอมยกโทษให้กับตัวเองและผู้อื่นก่อน

การยกโทษไม่จำเป็นว่าต้องทำเพียงครั้งเดียว เราสามารถที่จะยกโทษได้หลายครั้งในระดับที่ลึกขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อเราไม่ยอมยกโทษ เราก็ออกนอกการคุ้มครองของพระเจ้าในชีวิตเรา มารซาตานใช้ความขมขื่นเป็นประตูเข้ามาทำร้ายเรา ทั้งความคิด จิตใจ ร่างกาย

ในโรม 12:20 บอกให้เราทำดีตอบแทนศัตรู คือเค้าทำร้ายเรา แต่เรากลับทำดีตอบ นั่นจะทำให้ศัตรูแพ้เรา เพราะเค้าทำให้เราเจ็บไม่ได้ ทำให้เราเสียใจไม่ได้ คือเราปฏิเสธที่จะขมขื่น และมอบเรื่องนั้นไว้กับพระเจ้าที่จะเป็นผู้แก้แค้นแทน

ทุกเหตุการณ์ร้ายที่เข้ามาในชีวิตของเราและเราตัดสินใจที่จะไม่ยอมขมขื่น พระเจ้าจะทรงเปลี่ยนให้เป็นผลดีในที่สุด ตัวอย่างที่ชัดเจนอยู่ในปฐมกาล เรื่องราวของโยเซฟที่ถูกพี่ชายอิจฉากลั่นแกล้งขายไปเป็นทาส ต้องถูกใส่ร้ายจนติดคุก ถูกผิดสัญญาและละเลย แต่เหตุการณ์เหล่านี้ไม่มีพระคัมภีร์ตอนไหนบันทึกว่าโยเซฟบ่นต่อว่าหรือเคียดแค้นเลย แต่ตลอดหลายสิบปีนั้นเขาสามารถรักษาใจให้ไม่ขมขื่นต่อผู้ที่ทำร้ายเขาได้ สุดท้ายพระเจ้าทรงยกเขาขึ้นสูงที่สุดกลายเป็นผู้ที่ได้รับการอวยพรอย่างมาก และมีชีวิตที่เป็นพระพรแก่คนอื่นอีกมากมาย

พระเจ้าทรงใช้ใครได้บ้าง?

© คนที่ไม่มัวแต่คิดว่าเราดีพอหรือยัง เรามีความสามารถแค่ไหน

© คนที่ไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดหรือจะมองเรายังไง แต่สนใจว่าพระเจ้าคิดและมองเรายังไง

© คนที่พร้อมให้พระเจ้าใช้ เป็นเหมือนภาชนะที่ว่างเปล่า พร้อมรับการเติมจากพระเจ้าเสมอ

© มีชีวิตที่ตื่นเต้นและคาดหวังว่าพระเจ้าจะทำอะไรผ่านชีวิตของเราในแต่ละวัน

พระสัญญาของพระเจ้าใน 2 พงศาวดาร 7:14 ถ้าประชากรของเราผู้ซึ่งเขา เรียกกันโดยชื่อของเรานั้นจะถ่อมตัวลง และอธิษฐานและแสวงหาหน้าของเรา และหันเสียจากทางชั่วของเขา เราก็จะฟังจากสวรรค์และจะให้อภัยแก่บาปของเขาและจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย

ใน ฟิลิปปี 3:13-15 อ.เปาโลเลือกที่จะลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้ว และบากบั่นมุ่งไปสู่เป้าหมายที่แท้จริง ดูก่อนพี่น้องทั้งหลายข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่งคือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัยพื่อจะได้รับรางวัลซึ่งในพระเยซูคริสต์พระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบนให้เราไปรั

อธิษฐานขอให้พระเจ้าทรงเปิดเผยความจริงที่ซ่อนอยู่แก่เรา ขอพระองค์เปิดตาใจเราให้เห็นสิ่งดีที่ซ่อนอยู่ภายใต้เหตุการร้ายเหล่านั้น

บาปแห่งความขมขื่นสามารถตกทอดมาตามสายเลือด แต่พระเจ้าก็ได้ทรงไถ่เราจากสิ่งเหล่านี้แล้ว พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงการไถ่นี้ไว้ใน 1 เปโตร 1:18-19 ท่านรู้ว่าพระองค์ได้ทรงไถ่ท่านทั้งหลายออกจากการประพฤติอันหาสาระมิได้ ซึ่งท่านได้รับต่อจากบรรพบุรุษของท่าน มิใช่ไถ่ไว้ด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายได้เช่นเงินและทอง แต่ทรงไถ่ด้วยพระโลหิตประเสริฐของพระคริสต์ ดังเลือดลูกแกะที่ปราศจากตำหนิหรือจุดด่าง

จงดำเนินชีวิตอย่างผู้มีชัยชนะ *** การยกโทษมีฤทธิ์อำนาจ *** ไม่มีข้ออ้างที่จะไม่ยกโทษ *** จงกลับใจและสารภาพบาป

พระเจ้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง และพระองค์ไม่ประสงค์ร้ายต่อลูกๆ ของพระองค์แน่นอน พระคำยากอบ 1:16-17 บอกเราว่า พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า อย่าหลงผิดไปเลย ของประทานอันดีทุกอย่างและของประทานอันเลิศทุกอย่างย่อมมาจากเบื้องบน และส่งลงมาจากพระบิดาแห่งบรรดาดวงสว่าง ในพระบิดาไม่มีการแปรปรวน หรือไม่มีเงาอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลง

อธิษฐานทูลขอให้พระเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์เองแก่เรา ให้เรารู้จักพระองค์มากยิ่งขึ้น ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ให้เราอ่านพระธรรมสดุดีบทที่ 103 ทุกวัน

ผู้ที่สมควรได้รับความรักและการช่วยเหลือจากพระเจ้า ไม่ใช่คนที่ทำดี เหมือนกับที่พระคำเอเฟซัส 2:8-9 บอกเราว่าความรอดไม่ได้มาจากการกระทำ ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อและมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายกระทำเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้

พูดกับตัวเองว่า ไม่มีใครในโลกที่สำคัญสำหรับพระเจ้ามากกว่าตัวเรา!”

พระสัญญาของพระเจ้าในอิสยาห์ 61:1-9

1พระวิญญาณแห่งพระเจ้าทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า
เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงเจิมข้าพเจ้าไว้
เพื่อนำข่าวดีมายังผู้ที่ทุกข์ใจ
พระองค์ทรงใช้ข้าพเจ้ามาให้เล้าโลมคนที่ชอกช้ำระกำใจ
และร้องประกาศอิสรภาพแก่บรรดาเชลย
และบอกการเปิดเรือนจำออกให้แก่ผู้ที่ถูกจำจอง
2เพื่อประกาศปีแห่งความโปรดปรานของพระเจ้า
และวันแห่งการแก้แค้นของพระเจ้าของเรา
เพื่อเล้าโลมบรรดาผู้ที่ไว้ทุกข์
3เพื่อจัดให้บรรดาผู้ที่ไว้ทุกข์ในศิโยน
เพื่อประทานมาลัยแทนขี้เถ้าให้เขา
น้ำมันแห่งความยินดีแทนการไว้ทุกข์
ผ้าห่มแห่งการสรรเสริญแทนจิตใจที่ท้อถอย
เพื่อคนจะเรียกเขาว่าต้นก่อหลวงแห่งความชอบธรรม
ที่ซึ่งพระเจ้าทรงปลูกไว้เพื่อพระองค์จะทรงสำแดงพระสิริของพระองค์
4เขาทั้งหลายจะสร้างสิ่งปรักหักพังโบราณขึ้นใหม่
เขาจะซ่อมเสริมที่ทิ้งร้างแต่เก่าก่อนขึ้น
เขาจะซ่อมหัวเมืองที่ปรักหักพัง
คือที่ทิ้งร้างมาหลายชั่วอายุคนแล้วนั้น
5คนต่างถิ่นจะยืนเลี้ยงฝูงแพะแกะของเจ้าทั้งหลาย
คนต่างด้าวจะเป็นคนไถนาและคนแต่งเถาองุ่นของเจ้
6แต่เขาจะเรียกเจ้าทั้งหลายว่าปุโรหิตของพระเจ้า
คนจะพูดถึงเจ้าว่าเป็นผู้ปรนนิบัติของพระเจ้าของเรา
เจ้าทั้งหลายจะได้รับประทานความมั่งคั่งของ บรรดาประชาชาติ
และเจ้าจะอวดความมั่งมีของเขาทั้งหลาย
7แทนความอายของเจ้าทั้งหลายเจ้าจะได้ส่วนสองส่วน
แทนความอดสู เขาทั้งหลายจะเปรมปรีดิ์ในส่วนของเขา
เพราะฉะนั้นในแผ่นดินของเขาทั้งหลาย เขาจะได้สองส่วนเป็นกรรมสิทธิ์
ความชื่นบานเป็นนิตย์จะเป็นของเขา
8เพราะเราคือพระเจ้ารักความยุติธรรม
เราเกลียดการโจรกรรมและความผิด
เราจะให้การตอบแทนแก่เขาทั้งหลายอย่างแน่นอน
และเราจะกระทำพันธสัญญานิรันดร์กับเขา
9เชื้อสายของเขาทั้งหลายจะเป็นที่รู้จักกันท่ามกลาง บรรดาประชาชาติ
และลูกหลานของเขาในท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย
ทุกคนที่ได้เห็นเขาจะจำเขาได้
ว่าเขาเป็นประชาชนซึ่งพระเจ้าทรงอำนวยพระพร

สุดท้ายการแก้แค้นที่แท้จริงคือการสละสิทธิ์ที่จะขมขื่น นำการทำลายไปสู่ชัยชนะ และเอาประสบการณ์นั้นไปช่วยคนอื่นให้ได้รับการชูใจ (2 คร.1:4 พระองค์ผู้ทรงชูใจเราในการทุกข์ยากทั้งสิ้นของเรา เพื่อเราจะสามารถชูใจคนเหล่านั้นที่มีความทุกข์ยากอย่างใดอย่างหนึ่งได้ด้วยความชูใจ ซึ่งตัวเราเองได้รับจากพระเจ้า)

Love in Christ

เปิ้ล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น